Pea Protein (โปรตีนจากถั่วลันเตา) คือ ถั่วลันเตาที่มีโปรตีนสูง รวมไปถึงส่วนประกอบของกรดอะมิโนอย่าง BCAA (Branched Chain Amino Acids) เป็นกลุ่มของกรดอะมิโนสำคัญเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อชั้นยอดเพราะไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอลแอบแฝงนอกจากนี้ยังสามารถถูกนำไปย่อยใช้เป็นพลังงานได้ง่ายเนื่องจากประกอบด้วย วาลีน (valine) ไอโซลิวซีน (isoleucine) และลิวซีน (leucine) กรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้

ถั่วลันเตามีใยอาหารสูงมากจัดเป็นอาหารเสริมชั้นดีที่มีสรรพคุณเสริมสร้างช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์แทบทุกด้าน อาทิ เบตาแคโรทีน ช่วยในการบำรุงสายตาและผิวพรรณ วิตามินบี วิตามินบี 12 และสารเลซิทิน (Lecithin) ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาท เป็นต้น

โปรตีนจากถั่วลันเตาจึงเป็นอีกทางเลือกใหม่ที่คนรักใสใจสุขภาพและร่างกายให้ความสนใจและนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ยิ่งรับประทานควบคู่ไปกับผัก ผลไม้ หลังออกกำลังกายจะยิ่งช่วยให้ได้ประสิทธิภาพคุณประโยชน์มากขึ้น

โปรตีนจากฟักทอง ที่ให้โปรตีนมากถึง 60% โปรตีนฟักทองอินทรีย์เป็นแหล่งโปรตีนที่เหมาะสมกับคนที่ทานมังสวิรัติ แพ้นมวัว โปรตีนจากเมล็ดฟักทองมีโปรตีนสูงให้ไฟเบอร์ น้ำตาลต่ำ รสชาติที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับแหล่งโปรตีนมังสวิรัติอื่น ๆ ปริมาณโปรตีน 60% มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและบำรุงรักษามวลกล้ามเนื้ออย่างมาก

โปรตีนจากข้าวสีน้ำตาล เป็นแหล่งโปรตีนจากข้าวธรรมชาติ มีโปรตีน 80% มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีที่สุดสำหรับผู้เป็นมังสวิรัติและทานอาหารเจ โปรตีนมีส่วนช่วยในการเสริมสร้าง และรักษากล้ามเนื้อ มีกรดอะมิโนที่จำเป็นเหมาะสำหรับการดูแลระบบต่างๆของร่างกาย

โปรตีนจากข้าว เหมาะสำหรับผู้ทานมังสวิรัติ และเจ และผู้ที่แพ้ถั่วและนม ให้โปรตีนสูง มีส่วนผสมของกาบา และ มีวิตามินสูง บำรุงประสาทและสมอง ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ

จัดเป็นใยอาหารประเภทพรีไบโอติก ที่เป็นอาหารที่ดีของแบคทีเรียกลุ่ม Bifidobacterium เป็นอาหารสำหรับจุลินทรีย์สุขภาพโดยเฉพาะ ช่วยลดจำนวนจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค เพิ่มมวลอุจจาระ ทำให้อุจจาระชุ่มน้ำ ขับถ่ายออกได้ง่ายขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวและบีบตัวของลำไส้ดีขึ้น กากอาหารถูกขับเคลื่อนลงไปและขับถ่ายออกง่ายขึ้น

โปรตีนจากเมล็ดทานตะวัน ซึ่งให้โปรตีนสูงถึง 50% อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินบีหนึ่งไนอะซินและธาตุเหล็ก นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย

อะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิตามินซี มีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และสามารถเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย มีปริมาณของไขมันอิ่มตัว และโซเดียมต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล และจากผลการวิจัยพบว่า อะเซโรล่า เชอร์รี่ มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มถึง 30-80 เท่า

Pomanox TM สารสกัดจากผลทับทิมสเปน ที่มีแหล่งปลูกทางตอนใต้ และ ตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน เป็นผลผลิต ส่วนหนึ่งในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟินอล แอนโธไชยานิน กรดเอลลาจิก (Ellagic acid) และเอลลาจิแทนนิน(Ellagitannin) ขจัดสารอนุมูลอิสระสามารถป้องกันความเสื่อมของร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆเช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง และ ไขมันอุดตันตามผนังหลอดเลือดในสารสกัดจากทับทิมมีสาร polphenos ที่มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ช่วยปรับสมดุลในการขับถ่ายและเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่ดีให้แก่ลำไส้ อีกทั้งมีประโยชน์ในด้านของผิวพรรณโดยช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ป้องกันการเกิดริ้วรอย เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว ช่วยเสริมการสร้าง Glutathione เพิ่มขึ้นอีก 40% และยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน

• ช่วยในการเผาผลาญไขมันที่อยู่ลึกข้างใน ซึ่งเป็นไขมันที่สลายได้ยากถ้าออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว
• ช่วยเสริมการทำงานของตับ ล้างสารพิษ เสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ดูอ่อนเยาว์
• มีประโยชน์ในส่วนของ ผิว กระดูก และ เนื้อเยื่อ
• ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยกระตุ้นการหลั่ง growth hormone
• ช่วยในเรื่องการปรับสมดุล ทำให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติ
• ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายมีพลังมากขึ้น
• เพิ่มปริมาณฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโต
• เป็นหนึ่งในกรดอะมิโนจาก BCAA's ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีหน้าที่รักษากล้ามเนื้อให้สมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา
• ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ฉีกขาดไป

• แอล-อาร์จินีน (L-Arginine) คือกรดอะมิโน ที่ถือว่าเป็น "โมเลกุลมหัศจรรย์"
• มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมหาศาลเพราะ L-Arginine จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิต ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide)
• เพื่อช่วยในเรื่องการขยายตัวของหลอดเลือดรวมทั้งกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone)
• ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการคงความเป็นหนุ่มเป็นสาว ช่วยชะลอความชรา

• L-Lysine เป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้
• ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
• มีส่วนในการช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย
• ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ฮอร์โมน และเอนไซม์ต่าง ๆ ในร่างกาย
• ช่วยให้ร่างกายนำกรดไขมันไปเผาผลาญเป็นพลังงาน
• ช่วยเสริมสร้างสมาธิให้ดียิ่งขึ้น
• มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
• ช่วยปรับสมดุลของระดับไนโตรเจน ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง
• ช่วยป้องกันและรักษาโรคกระพรุน
• ช่วยรักษาและบรรเทาปัญหาด้านการสืบพันธุ์บางประการ
• ช่วยลดความถี่และป้องกันการเกิดโรคเริมหรือตุ่มใสที่ริมฝีปาก
• ช่วยรักษาอาการจากหัวใจขาดเลือด

• L-Methionine ถูกจัดอยู่ในกลุ่มกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้จึงต้องได้รับจากอาหาร ซึ่งทำหน้าที่สำคัญของ เมทไธโอนีน คือ เป็นแหล่งที่ให้ซัลเฟอร์ (Sulfur)หรือที่เราเรียกว่ากำมะถัน และสารประกอบอื่น ๆ ที่จำเป็นแก่ร่างกายโดยร่างกายจะใช้กำมะถันสำหรับการเผาผลาญและการเจริญเติบโตตามปกติ หากร่างกายขาดหรือมีปริมาณของกำมะถันที่ไม่เพียงพอร่างกายจะไม่สามารถสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ และจะไม่สามารถนำสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้รับมาจากแหล่งต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
• มีกระบวนการกำจัดอนุมูลอิสระภายในเซลล์
• ส่งเสริมการผลิตกลูต้าไธโอน(glutathione)
• ช่วยกำจัดพิษออกจากร่างกาย (Natural detoxification processes)
• ช่วยย่อยสลายไขมัน และป้องกันการสะสมของไขมันในตับ
• ช่วยป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้า รักษาอาการของผู้ป่วยโรคจิตเภทบางราย
• ลดระดับของสารฮีสตามีนในเลือด
• ช่วยในการรักษาโรคตับ โดยเฉพาะไขมันพอกตับ(Fatty liver)
• ช่วยให้แผลหายเร็ว (Improving wound healing)
• รักษาโรคซึมเศร้า (Depression) โรคภูมิแพ้ หอบหืด พิษจากทองแดง การแพ้จากการฉายแสงรักษามะเร็ง ช่วยรักษาโรคสั่นกระตุกหรือโรคพาร์กินสัน พาร์กินสัน (Parkinson's disease)
• ป้องกันผมหงอกก่อนวัย เมไธโอน มีประโยชน์ต่อผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิด ช่วยเพิ่มการขับเอสโทรเจนส่วนเกินออกจากร่างกายได้

ไอโซลิวซีน (L-Isoleucine) กลุ่มกรดอะมิโนจำเป็น และร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เอง ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารที่มีสารไอโซลิวซีน พบมากในผลมะเม่า, ไข่, ปลา, สัตว์ปีก, เนื้อวัว, ข้าวสาลี, ผลิตภัณฑ์จากนม, ถั่วเมล็ดแบน และถั่วต่างๆ มีความสำคัญต่อร่างกายในเรื่องของการเจริญเติบโต และพัฒนาการเรียนรู้ (IQ) อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ผิวหนัง และกระดูก ช่วยให้่ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ไอโซลิวซีน (L-Isoleucine) จะทำงานประสานคู่กับ แอลลิวซีน (L-Leucine ) และแอลวาลีน (L-Valine) ซึ่งจะช่วยรักษาพร้อมกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ จึงช่วยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง กระชับมากขึ้น ช่วยเพิ่มการผลิต Growth Hormone อีกทั้งยังช่วยในการเผาผลาญไขมันที่อยู่ในชั้นไขมัน ซึ่งเป็นไขมันที่สลายได้ยาก พร้อมทั้งช่วยชะลอความชราและริ้วรอยก่อนวัย

วาลีน จัดอยู่ในกลุ่มกรดอะมิโนจำเป็น ที่ได้จากการย่อยสลายของโปรตีนช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ รวมไปถึงการผลิตพลังงานอีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยไม่กระตุ้นอินซูลินช่วยสมานบาดแผลและกระโกที่ได้รับความเสียหายได้เร็วกว่าปกติ

Acai berry อาซาอิเบอร์รี่ถูกจัดให้ให้เป็น Nature's Porfect Food เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุและกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน บี1, บี2, บี3, วิตามินซี, วิตามินอี ธาตุเหล็ก โพแทสเชียม เบต้าแคโรทีน เส้นใยอาหารในปริมาณสูง กรดไขมันที่จะเป็นอย่าง โอเมก้า 3, 6, 9 ฟอสฟอรัสและแคลเซียม กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังเป็นแหล่งโปรตื่นที่ดีอีกด้วย ที่สำคัญ คือผลอาซาอิเบอร์รี่ มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระในระดับสูงสุด หรือที่เรียกว่า Super Antioxidants อาซาอิเบอร์รี่ จะช่วยรักษาระบบต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำงานอย่างเป็นปกติ ช่วยให้เซลล์ซ่อมแซมดูแลตัวเอง ซึ่งส่งให้เกิดผลที่ดีกับร่างกายหลากหลายประการ ด้านผิวพรรณ จากการเป็นสุดยอดของสาร Antioxidant ทำให้อาซาอิเบอร์รี่มีคุณสมบัติในการ Anti-Aging ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ สาเหตุของความชรา มีประสิทธิภาพในการลดเลือนและต่อต้านการเกิดริ้วรอย เปรียบเสมือน Botox จากธรรมชาติช่วยรักษาโครงสร้างของชั้นผิว ให้ผิวเนียน กระชับดูอ่อนเยาว์ และเปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ ด้านการเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกาย คุณค่าทางโภชนาการมากมายที่อุดมอยู่ในอาซาอิเบอร์รี่ ทำให้อาซาอิเบอร์รี่ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานให้กับร่างกายได้ ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ความสดชื่น ลดความเมื่อยล้า และเพิ่มพละกำลังในการออกกำลังกาย จึงพบว่ามีผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักและเพิ่มพลังงาน หลายตัวนำอาซาอิเบอร์รี่มาเป็นส่วนประกอบนอกจากนี้ยังช่วยดูแลและบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง เป็นหนุ่มสาวอยู่เสมอด้วย

แบล็คเคอแรนท์มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ชนิดที่มีชื่อว่า แอนโทไวยานินส์มากเป็นพิเศษ ซึ่งสารนี้เป็นตัวทำให้ผลไม้มีสีดำ มีสรรพคุณ ช่วยปกป้องโรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน และโรคสมองเสื่อมได้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณและลดริ้วรอยหมองคล้ำรอบดวงตา แบล็กเคอร์แรนท์มีวิตามิน C สูงกว่าส้มถึง 4 เท่า ถ้ำเทียบในปริมาณที่เท่ากันช่วยบำรุงรักษาสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัด ช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิวหนัง กระดูก เนื้อเยื่อ และฟันให้แข็งแรง ทำให้ผิวพรรณสดใส เมื่อทานติดต่อเป็นเวลานานจะช่วยบำรุงผิวและลดรอยหมองคล้ำรอบดวงตา สามารถบรรเทาอาการเมื่อยล้า เนื่องจากใช้สายตานานๆได้และยังช่วยให้สายตาทำงานดีขึ้นในที่มืด (Nakaishi & Colleagues from the University of Tsukuba, Tokyo, Japan)

แอนโธไซยานินมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาและชะลอความเสื่อมของเซลล์ดวงตาและจอประสาทตา ช่วยลดการเสี่ยงจากการเกิดโรคต้อกระจก ช่วยทำให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้นเลือดไปเลี้ยง เส้นเลือดฝอยที่ตวงตาให้แข็งแรง ไม่แตกง่าย ป้องกันไม่ให้ดวงตาและจอประสาทตาเสื่อม วิตามินเอในลูกแบล็กเคอร์แรนท์สามารถป้องกันโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินเอได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคทางสายตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ต้อลม โรคน้ำตาแห้ง หรือเซลล์สายตาถูกทำลาย โรคเบาหวาน

มีผลต่อการต้านอนมุลูอิสระ โดยจะไปกระตุ้นการสร้าง glutathione และสารต่อต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ มีส่วนช่วยในการลดรอยดำผิวของกระแดดที่เกิดจากการสัมผัสรังสียูวี และปรับปรุงความสม่ำเสมอของผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดด ชะลอความเสื่อมโทรมของผิวจากแสงแดดช่วยลดการอักเสบของผิว และลดผดผื่นจากแสงแดด

สารคาเฟอีน (Caffeine) และสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ในสารสกัดจากชาเขียวที่มีชื่อว่า คาเทชิน (Catechin) ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย และยังมีส่วนช่วยในเรื่องการการลดน้ำหนักได้ และสาร Epigallocatechingallate (EGCG) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถปกป้องโครงสร้างโปรตีน อิลาสตินและคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ช่วยป้องกันเอนไซม์ที่ทำลายอิลาสตินและคอลลาเจน ช่วยลดเลือนการเกิดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดเลือนรอยด่างดำบนใบหน้า ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดการอักเสบของผิวหนังได้ดีเยี่ยม

Pomanox TM สารสกัดจากผลทับทิมสเปน อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟินอล แอนโธไชยานิน กรดเอลลาจิก (Ellagic acid) และเอลลาจิแทนนิน(Ellagitannin) ขจัดสารอนุมูลอิสระสามารถป้องกันความเสื่อมของร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆเช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง และ ไขมันอุดตันตามผนังหลอดเลือดในสารสกัดจากทับทิมมีสาร polyphenols ที่มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ช่วยปรับสมดุลในการขับถ่ายและเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่ดีให้แก่ลำไส้ อีกทั้งมีประโยชน์ในด้านของผิวพรรณโดยช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ป้องกันการเกิดริ้วรอย เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว ช่วยเสริมการสร้าง Glutathione เพิ่มขึ้นอีก 40% และยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน

ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ช่วยเพิ่มประสิทธิการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ช่วยยับยั้งการจับตัวเป็นก้อนแข็งของเลือด ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์และลดเลือนริ้วรอย

VITAMIN B3 (Niacin) ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรค์ มีความจำเป็นต่อระบบประสาทและการทำงานของสมอง ช่วยเผาผลาญไขมันและช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น บรรเทาปัญหาต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร ช่วยบำรุงผิวพรรณ บรรเทาอาการปวดศีรษะจากไมเกรน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง ลดอาการวิงเวียนศีรษะของโรคน้ำในหูไม่เท่ากันช่วยเพิ่มพลังงานที่ได้จากการย่อยและเผาผลาญอาหารช่วยรักษาอาการร้อนในและกลิ่นปาก

เป็นสารต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ (potent antioxidant) ซึ่งมีผลในการป้องกันการทำลายเซลล์ หรือลดความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีผลช่วยปกป้องการเสื่อมสลายของเยื่อหุ้มเซลล์ ให้ผิวได้รับการฟื้นฟู บำรุง กลับคืนสู่ความเยาว์วัยอีกครั้ง ช่วยปกป้องและต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีและแลดูอ่อนเยาว์ ช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ช่วยลดเลือนแผลเป็น ฝ้า กระและจุดด่างดำ ให้จางลง ช่วยลดอาการวัยทองในสตรีสูงวัย ช่วยบำรุงหลอดเลือดและรักษาสุขภาพหัวใจ ช่วยเสริมประสิทธิภาพของวิตามินเอ

วิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก (Pantothenic acid) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบีรวม มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก. หรือ mg.) มีหน้าที่ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์ต่างๆ การเจริญเติบโตของร่างกาย และการพัฒนาของระบบประสาทส่วนกลาง มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของต่อมหมวกไต รวมไปถึงการช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานและใช้พาบาและโคลีนของร่างกาย และยังมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนไขมันและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน

เป็นตัวเผาผลาญกรดไขมันอย่างดี ทำหน้าที่เป็นตัวย่อยสลายของเอนไซม์ในร่างกาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง ทำห้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย ช่วยชะลอวัยได้ ป้องกันโรคประสาทและโรคผิวหนังได้ ช่วยป้องกันมือชา ตะคริว

ช่วยในการเจริญเติบโต การสร้างผม เล็บ ผิวหนัง ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และลดความรุนแรงของไมเกรน

ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต ดูแลการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยเฉพาะการสลายสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต บำรุงปลายประสาท เป็นหนึ่งในยารักษาโรคปลายประสาทอักเสบช่วยป้องกันการเกิดต้อกระจกได้

วิตามินบี 9 ส่วนมากรู้จักกันในชื่อ กรดโฟลิค ( FOLIC ACID ) วิตามินชนิดนี้ละลายในน้ำ (WATERSOLUBLE) และจัดอยู่ในเครือของวิตามินบีรวม และบางครั้งเราเรียกว่า โฟเลท โฟลาชิน หรือเทอโรอิลกลูทาเมท กรดโฟลิค หรือ วิตามินบี 9 กรดโฟลิคเป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่พบว่ามักจะขาดบ่อยมากในอาหารธรรมดาของเรา แต่ถ้ามีมากจะถูกเก็บไว้ใช้ในคราวจำเป็น มีมากที่สุดในผักสีเขียวจัด กรดโฟลิคช่วยร่างกายในการสร้างเม็ดเลือด แดงโดยที่จะไปช่วยไขกระดูก( BONE MARROW ) ให้ผลิตเม็ดเลือดแดง และควบคุมการทำงานของสมอง และอารมณ์ให้อยู่ในสภาพที่ปกติสมบูณ์ ทำให้รู้สึกอยากรับประทานอาหารมากขึ้นและยังช่วยในการเผาผลาญ RNA ( RIBONUCLEIC ACID ) และ DNA (DEOXYRIBONUCLEIC ACID ) ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการสังเคราะห์โปรตีนของการสร้างโลหิต สร้างเซลล์ และการถ่ายทอดปัจจัยทางพันธุกรรม และทำหน้าที่ร่วมกับวิตามิน บี12

ไบโอติน (Biotin) หรือ วิตามินบี 7 (Vitamin B 7) หรือ วิตามินเอช (Vitamin H) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำซึ่งมีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ และจัดอยู่ในกลุ่มวิตามินบีรวม มีหน่วยวัดเป็นไมโครกรัม (มคก. หรือ mcg.) โดยมีส่วนสำคัญในการเผาผลาญขมันและโปรตีน การสังเคราะห์กรดแอสคอร์บิกต้องใช้ไบโอตินเป็นตัวช่วย โดยแบคที่เรียในลำไส้ก็สามารถสังเคราะห์ไบโอตินได้สำหรับประโยชน์โดยรวมจะช่วยรักษาสุขภาพผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ

วิตามินบี 12 หรือ โคบาลามิน (Cobalamin) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำอย่างมีประสิทธิภาพดีแม้มีเพียงปริมาณเล็กน้อย มีอีกชื่อที่รู้จักกันดีคือ วิตามินแดง หรือ ไซยาโนโคบาลามิน(Cyanocobalamin) เป็นวิตามินเพียงตัวเดียวที่มีแร่ธาตุที่จำเป็นประกอบอยู่ และแตกตัวไม่ดีนักในกระเพาะอาหาร ต้องรวมตัวกับแคลเซียม เพื่อให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น โดยร่างกายสามารถเก็บสะสมวิตามินบี 12 ไว้ได้ ซึ่งจะแตกต่างจากวิตามินบีชนิดอื่น โดยใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าที่วิตามินจะสูญสลายไปจากร่างกาย นอกจากนี้การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เป็นปกติจะช่วยการดูดซึมของวิตามินบี 12 อาการของการขาดวิตามินบี 12 อาจใช้เวลาถึง 5 ปีหลังจากที่สะสมในร่างกายหมดไปจึงจะปรากฏให้เห็น วิตามินบี 12 จะพบในผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์เป็นหลัก ส่วนอาหารจากพืชจะไม่มีวิตามินบี 12 อาหารที่มีวิตามินบี 12 เช่น ตับ ไต นม ไข่แดง ชีส ปลา เนื้อหมูเนื้อวัว อาหารหมักตอง เป็นต้น หากร่างกายขาดวิตามินบี 12 อาจทำให้เกิดโรคโลหิตจางและโรคเกี่ยวกับระบบประสาทได้